Virtual Private Network หรือ VPN หมาย
ถึง เครือข่ายเสมือนส่วนตัว โดยการใช้โครงสร้างของ เครือข่ายอินเทอร์เน็ตสาธารณะ แต่ยังมีความปลอดภัยระดังสูง สามารถนำมาใช้งานสำหรับองค์กรได้ ทั้งนี้ด้วยการเข้ารหัสแพ็กเก็ตข้อมูลทั้งการส่งและรับ เพื่อให้ข้อมูลมีความปลอดภัยมากขึ้น![]() การเข้ารหัสแพ็กเก็ต เพื่อทำให้ข้อมูล มีความปลอดภัยนั้น ก็มีอยู่หลายกลไกด้วยกัน ซึ่งวิธีเข้ารหัสข้อมูล (encryption) จะทำกันที่เลเยอร์ 2 คือ Data Link Layer แต่ปัจจุบัน มีการเข้ารหัสใน IP Layer โดยใช้เทคโนโลยีที่ได้รับความนิยมสูงสุดคือ IPSec (IP Security) ![]() ![]() อย่างไรก็ตามการลงทุนใช้บริการ MPLS ก็มีต้นทุนที่สูงมาก ในขณะที่ปัจจุบันบริการ ADSL ก็มีต้นทุนลดลงมาก และมีผู้ให้บริการหลายรายสามารถให้บริการในพื้นที่เดียวกันได้ ส่งผลให้การประยุกต์ใช้ VPN บนโครงข่าย ADSL สามารถและต้นทุนการเช่าใช้วงจร MPLS หรือ Lease Line ได้อย่างมาก รวมทั้งปัจจุบันโครงข่าย 3G ก็มีความพร้อมมากขึ้นจะสามารถนำมาใช้สำหรับการวางระบบ VPN เช่นกัน ตัวอย่างอุปกรณ์ที่นำมาใช้ในการติดตั้งเช่น Unified Services Routers – DSR Series ของ D-Link ผู้ติดตั้งระบบสามารถใช้บริการจากผู้ให้บริการ 2 ราย หรือ 2 WAN รวมทั้ง 3G เพื่อสร้างความเสถียรแก่โครงข่าย VPN ได้ ตัวอย่างการประยุกต์ใช้งาน Unified Services Routers จาก D-Link การติดตั้งระบบเป็นดังนี้ 1. สำนักงานใหญ่ (Head Quarter) ติดตั้งอุปกรณ์รุ่น DSR-1000 หรือ DSR-1000N ทั้งนี้รุ่น DSR- 1000N จะมีระบบ Wireless LAN แบบ 2 คลื่นความถี่ทั้ง 5GHz และ 2.4GHz 802.11 a/b/g/n มาด้วยคุณสมบัติเด่นๆคือของทั้ง 2 รุ่นคือ Dual WAN Interfaces สามารถทำ Outbound Load Balancing, Route Failover รวมทั้งสนับสนุน High Speed 100Mbps VPN performance รองรับ IPSec Tunnel ได้ 70 Tunnel., SSL VPN 20 Tunnel และ PPTP/L2TP ได้ 25 Tunnel (หากมีสาขามากกว่านี้สามารถใช้อุปกรณ์ Firewall ตระกูล NetDefend จาก D-Link ได้เช่นกัน) 2. สำนักงานสาขาขนาดกลางติดตั้ง DSR-500 หรือ DSR-500N ซี่งสนับสนุน 2 WAN รวมทั้ง 3G ได้การเชื่อมต่อ Aircard ผ่าน USB ได้เช่นกัน 3. สำนักงานสาขาขนาดเล็กติดตั้งรุ่น DSR-250N เพียงเท่านี้ก็สามารถติดตั้งระบบ VPN แก่องค์กรได้แล้ว ข้อดีที่ได้จากการติดตั้งระบบ 1. ระบบเสถียรมากจาก Multiple WAN connections
•การเชื่อมต่อ WAN จากหลาย ISPs ไม่ว่าจะเป็น ADSL,VDSL,FTTH หรือ Cable Modem จะช่วยลดความเสี่ยงจากระบบล่มจากการมีเพียงวงจรเดียว (single point of failure)
2. การลงทุนที่มีประสิทธิภาพสูงเนื่้องจากสามารถใช้งาน WAN ได้เต็มที่
• การมีวงจรสำรอง (Route Fail-Over) ทำให้มั่นใจว่า WAN ใช้งานได้เสมอ
• การทำ Outbound Load Balancing:ทำให้การใช้งานอินเทอร์เน็ตทั้งสองวงจรเต็มประสิทธิภาพ
3. การควบคุม Bandwidth เพื่อมั่นใจว่าเพียงพอต่อการใช้งานสำหรับ applications ที่สำคัญ
•การตั้งค่าmission critical
applications ให้เป็น high priority ทำให้การใช้ทราฟฟิคของธุรกิจดำเนินไปด้ และแก้ปัญหาการใช้ Traffic อื่นๆในโครงข่ายเช่น การดาวน์โหลดไฟล์ , streaming, instant messaging เป็นต้น
3. สามารถใช้งาน Firewall & IPS เพื่อปกป้อง applications ขององค์การจากภัยคุกคามต่างๆได้
![]() 4. สามารถใช้งาน Remote VPN ได้ด้วย Clientless Web-base SSL VPN และ VPN ในรูปแบบอื่นๆเพื่อการติดตั้งในหลายรูปแบบเช่น PPTP/L2TP/IPSec/SSL VPN 5.มาพร้อมระบบ Wireless Lan 802.11a/b/g/n พร้อมการ Login แบบ Captive Portal 6. สนับสนุน File Server Sharing , Print Server เพียงเท่านี้การลงทุนทางด้านโครงข่ายก็ไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไป ข้อมูลเพิ่มเติม วีดีโอแนะนำ D-Link DSR Series Product Datasheet ติดต่อขอข้อมูลเพิ่มเติม siripongp@gmail.com |
วันอาทิตย์ที่ 7 ตุลาคม พ.ศ. 2555
ลดต้นทุนการเชื่อมสาขาพร้อมความเสถียรระดับสูงกับ ADSL VPN
สมัครสมาชิก:
ส่งความคิดเห็น (Atom)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น